Human Resource on Clould

ปัจจุบัน เทคโนโลยีการทำงานเกี่ยวกับงานบุคคลนั้น ก้าวหน้าไปมาก จากที่เมื่อก่อนเป็นการบันทึกด้วยมือ จากนั้นมีอุปกรณ์มาช่วยในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ดีด คอมพิวเตอร์ เครื่องตอกบัตร เครื่องรูดบัตร โปรแกรม คำนวณ เงินเดือน บางบริษัทใช้กระทั่งเครื่องสแกนม่านตา เพื่อป้องกันการโกงของพนักงาน จนกระทั่งในปัจจุบัน นวัตกรรมใหม่ของการทำงานบุคคลกำลังเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ การทำงานของงานของฝ่ายบุคคล ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์เป็นหลัก เมื่อซื้อ Software มาใช้แล้ว ก็ต้องมีการลง Server การทำงานเป็นการทำงานบนระบบ Lan ผ่าน Network ของบริษัท หากทำงานไม่เสร็จก็ต้องทำต่อที่บริษัทต่อจนกว่าจะเสร็จ ถ้าต้องการกลับไปทำต่อที่บ้าน อาจจะต้องใช้โปรแกรมในการรีโมทเครื่องช่วย อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านงานบุคคลล้วนเป็นข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กร ระบบป้องกันและมาตรการรักษาความลับของบริษัท มักไม่ปล่อยให้พนักงานนำงานกลับไปทำที่บ้าน ยกเว้นเป็นเรื่องที่สามารถเปิดเผยได้ โดยเฉพาะบริษัทที่มีพนักงานจำนวนมากหรือที่เป็นโรงงานพอถึงปลายเดือนทีไร เจ้าหน้าที่ในแผนกบุคคลแทบจะนอนค้างกันในบริษัทเลยทีเดียว เนื่องจากถ้าเงินเดือนไม่ออก เจ้าหน้าที่บุคคลมีหวังโดนรุมประชาทัณฑ์แน่ๆ

สำหรับนวัตกรรมใหม่สำหรับงานบุคคลที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้นั้น เป็นการผสมผสานงานบุคคลแบบเดิม เข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดไปไกลในปัจจุบัน นั่นคือ จากเดิมที่เป็นการทำงานผ่านระบบ Lan ของบริษัท เปลี่ยนมาเป็นการทำงานบนระบบ internet ครับ ฟังไม่ผิดแน่นอน บนระบบ internet ครับขอย้ำ เป็นการทำงานบน cloud ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นหูกันดีกับระบบนี้ กับการใช้งาน cloud บน google บ้าง Hotmail บ้าง หลายคนอาจจะคิดว่ามันแปลก ถ้าทำงานบน cloud ทำได้ด้วยหรือ? การรักษาความลับเป็นอย่างไร? ปลอดภัยหรือเปล่า? ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลมากครับ เกินกว่าที่หลายๆ คนจะคิดถึงยิ่งถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับ IT ด้วยแล้ว แทบจะคิดไม่ออกเลยว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว

มีหลายคนที่คิดว่า การเก็บข้อมูลไว้กับตัวเองดีที่สุด เพราะเราไม่อาจไว้ใจใครได้ แม้แต่ผู้ให้บริการเองก็ตามว่าจะเข้ามาแอบดูข้อมูลของตนเมื่อไหร่ถ้าใช้งานบนระบบ internet ซึ่งผมขอทำความเข้าใจก่อนเลยว่า โดยปกติแล้ว ผู้ให้บริการ software ทุกเจ้าไม่ว่าจะเป็นงานบุคคลหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีจรรยาบรรณในการที่จะไม่เข้าไปดูข้อมูลลูกค้าสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน ถ้าบริษัทไหนทำเช่นนั้นจะขาดความน่าเชื่อถือทันที ซึ่งอย่าว่าแต่เข้าไปแอบดูข้อมูลลูกค้าเลยครับ แค่ถามว่า คนที่ support คุยด้วยทุกวันชื่อจริงอะไร ชื่อเล่นอะไร ตำแหน่งอะไร ถามแค่ 3 อย่างนี้ ก็ยังตอบได้ไม่ครบเลยครับ การทำงานบน cloud มีข้อดีในแง่ที่ว่า เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ราคาแพงอย่าง Server มาติดตั้ง เมื่อไม่มี Server ก็ไม่ต้องกันพื้นที่ทำไว้สำหรับห้อง Server ไม่ต้องเสียค่าไฟสำหรับแอร์ในห้อง Server ไม่ต้องเสียเงินค่าจ้างพนักงานฝ่าย IT มาคอยดูแล เรายังสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาที่เราต้องการได้อีกด้วย ขอเพียงแค่มี internet เท่านั้น ซึ่งถ้ามือถือของคุณโทรได้ คุณก็ใช้ internet ได้แน่นอน แน่นอนมีข้อดีย่อมมีข้อเสีย หากผู้ให้บริการวางระบบไม่ดีในการปกป้องข้อมูลก็อาจจะทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ หรือไม่มีการสำรองข้อมูลกรณีข้อมูลเสียหาย หรืออยู่ในที่ที่สัญญาณ internet ไม่เร็วพอก็อาจจะมีอาการช้าบ้างในการทำงาน

Cloud ดีอย่างไรกับงานบุคคล

งานบุคคลมีมากมายหลายอย่าง เช่น HRM, TAM, Payroll, Recruit, Training เป็นต้น แล้วอะไรล่ะเหมาะที่สุดกับระบบ cloud ที่ว่า ระบบที่เหมาะสมที่สุดคือระบบ Time Attendance Management (TAM) หรือระบบจัดการเวลาการทำงานของพนักงานนั่นเองครับ นั่นเพราะว่า เวลาทำงานของพนักงาน เป็นอะไรที่เราไม่สามารถควบคุมได้เลย พนักงานจะขาด จะลา จะมาสาย จะไปพบลูกค้า จะเดินทาง จะทำโอที จะทำงานกะไหน จะเปลี่ยนกะการทำงานกันหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากและเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะพยากรณ์ล่วงหน้าได้ เราไม่มีทางรู้ได้ว่า วันนี้พนักงานจะป่วยหรือไม่ ลูกค้าจะติดต่อเข้ามาด่วนให้ไปพบหรือไม่ ดังนั้น งาน TAM จึงเป็นอะไรที่เหมาะสมสุดๆ

การออกแบบให้ TAM สามารถใช้บนระบบ cloud ได้ ทำให้งานบุคคลได้รับความสะดวกหลายอย่าง เช่น สำนักงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่โรงงานอยู่ที่นครปฐม พนักงานไม่จำเป็นต้องโทรมาแจ้งขอลา พนักงานเพียงพิมพ์ใบลาลงระบบ ให้ระบบส่งข้อมูลไปให้กับทางบุคคลเองผ่านระบบ internet รับทราบและอนุมัติ หรือวันนี้หัวหน้างานไม่เข้าไปพบลูกค้า แต่งานกำลังเร่งทำจำเป็นต้องทำ OT ด่วน พนักงานก็เพียงพิมพ์ใบขอ OT ในระบบ ระบบจะทำการแจ้งไปยังหัวหน้างานแล้วหัวหน้าก็ทำการอนุมัติ โดยอาจใช้ application บน mobile ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือ iOS ร่วมด้วย ซึ่งทำให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

กรณีต่อไป พนักงานที่เป็น Sales ต้องไปนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า Sales ไปพบลูกค้าจริง ไม่ใช่แค่แจ้งลอยๆ แล้วก็กลับบ้านไปนอนสบาย คำถามนี้สามารถตอบได้ด้วยการ Finger Scan นิ้วบน app บนมือถือซึ่งจะส่งรายละเอียดของพนักงานทั้งรหัสพนักงาน ตำแหน่งที่อยู่ หรือถ้ามีการถ่ายรูปด้วยก็จะส่งภาพกลับไปยังฐานข้อมูล เจ้าหน้าที่บุคคลสามารถเรียกดูข้อมูลเหล่านี้ได้ตลอดเวลาซึ่งเป็น real time ทำให้แทบจะทราบความเคลื่อนไหวของพนักงานเป็นวินาทีกันเลยทีเดียว

การบันทึกการทำงานของพนักงานลงระบบ วันนี้เราทำอะไรไปบ้าง ผู้บริหารสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา หัวหน้างานสามารถสั่งงานลูกน้องได้อย่างถูกต้อง และดูความคืบหน้าของงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสลับสับเปลี่ยนงานที่คิดว่ามีความสำคัญก่อนหลังได้อย่างง่ายดาย ผู้บริหารสามารถตรวจสอบการมาทำงานของพนักงาน การลา การไปข้างนอก ได้แบบ real time แม้จะไม่ได้อยู่ที่บริษัทก็ตาม ทำให้สามารถบริหารงานหรือสั่งงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลจากทุกๆส่วนนี้ จะนำมาเข้า โปรแกรม คำนวณ เงินเดือน ให้คุณได้อย่างสะดวกง่ายดาย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำงานฝ่ายบุคคลยุคใหม่เท่านั้น ซึ่งหยิบยกขึ้นมาเป็นน้ำจิ้มเพียงบางส่วน ซึ่งปัจจุบันพบว่า บริษัทต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจในการทำงานบนระบบแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราจำเป็นต้องหันมามองบริษัทของเราเองมากขึ้นว่า จริงๆ แล้วเราเหมาะสมกับเทคโนโลยีแบบไหน และเราพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปกับเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและกำลังคน ให้คุณสามารถแข่งขันในธุรกิจได้อย่างสบายใจ